เสรีภาพในการพูด
(อังกฤษ: freedom of speech)
หรือเสรีภาพในการแสดงออก (อังกฤษ: freedom of expression)
เป็นสิทธิการเมืองในการสื่อสารความคิดของบุคคลผ่านการพูด คำวา
เสรีภาพในการแสดงออก บางครั้งใช้เป็นคำไวพจน์ แต่ยังรวมไปถึงพฤติการณ์ใด ๆ
ในการแสวงหา ได้รับและนำข้อสนเทศหรือความคิดโดยไม่คำนึงถึงสื่อที่ใช้
ในทางปฏิบัติ สิทธิในเสรีภาพการพูดมิได้มีสมบูรณ์ในทุกประเทศ
และสิทธินี้โดยทั่วไปมักถูกจำกัด เช่นเดียวกับการหมิ่นประมาท การดูหมิ่นซึ่งหน้า
ความลามก และการยุยงให้ก่ออาชญากรรม
สิทธิในเสรีภาพการพูดได้รับการยอมรับเป็นสิทธิมนุษยชนภายใต้ข้อ
19 แห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และได้รับการยอมรับในกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ 19 แห่งกติกาฯ บัญญัติว่า
"ทุกคนจักมีสิทธิออกความเห็นโดยไม่ถูกแทรกแซง" และ
"ทุกคนจักมีสิทธิในเสรีภาพการพูด สิทธินี้จักรวมไปถึงเสรีภาพในการแสวงหา
ได้รับและส่งต่อข้อสนเทศและความคิดในทุกรูปแบบ โดยไม่คำนึงถึงขอบเขต
ไม่ว่าจะโดยการพูด การเขียนหรือการพิมพ์ ในรูปของศิลปะ
หรือผ่านสื่ออื่นใดที่เป็นทางเลือกของเขา" หากข้อ 19 ยังบัญญัติต่อไปว่าการใช้สิทธิเหล่านี้มี
"หน้าที่และความรับผิดชอบพิเศษ" และอาจ "ดังนั้น ต้องถูกจำกัดบ้าง"
เมื่อจำเป็น "เพื่อความเคารพถึงสิทธิหรือชื่อเสียงของคนอื่น" หรือ
"เพื่อคุ้มครองความมั่นคงของชาติหรือความสงบเรียบร้อย หรือการสาธารณสุข
หรือศีลธรรม
ที่มา th.wikipedia.org/wiki/เสรีภาพในการพูด
กรณีศึกษา
สหภาพยุโรป ประจำประเทศไทย จัดเสวนา
"การสร้างความปรองดองและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น"
โดยยกกรณีกฎหมายอาญามาตรา 112 ในการตัดสินคดีของนายสมยศ
พฤกษาเกษมสุข ขึ้นมาแสดงความคิดเห็น
นายเดวิด ลิปแมน หัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรป
ประจำประเทศไทย กล่าวว่าการจัดงานเสวนาครั้งนี้
เพื่อแสวงหาความร่วมมือกับประเทศไทยในการยกระดับมาตรฐานสิทธิมนุษยชน
ประชาธิปไตย และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งถือว่าเป็นหลักการสากล
ที่สหภาพยุโรปให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยประเทศไทย ก็ได้แสดงท่าทีที่ให้ความสำคัญกับการยกระดับสิทธิเสรีภาพในประเทศ
จึงเกิดเป็นความร่วมมือกันในครั้งนี้ขึ้นมา
หัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรป ประจำประเทศไทย
ยืนยันว่าไม่ได้มีภารกิจที่จะแทรกแซงกิจการภายในของไทย
แต่ต้องการเน้นการแสวงหาความร่วมมือ โดยต้องการส่งเสริมการพูดคุยและถกเถียง
เกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นให้มากขึ้น
โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยสหภาพยุโรป ซึ่งมีประเทศสมาชิกหลายประเทศ
เคยผ่านประสบการณ์เกี่ยวกับปัญหาเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมาก่อน
จึงยินดีที่จะร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประเทศไทย
เพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิเสรีภาพในประเทศไทยร่วมกัน
ด้านนายประวิทย์ โรจนพฤกษ์
ผู้สื่อข่าวอาวุโส สำนักพิมพ์เนชั่น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีกฎหมายอาญามาตรา 112 ถึงการตัดสินคดีของนายสมยศ
พฤกษาเกษมสุข ซึ่งเพิ่งถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 11 ปี
โดยเห็นว่า กรณีที่องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ รวมถึงสภาพยุโรป แสดงความกังวลมานั้น
เป็นเพราะการตัดสินครั้งนี้ กระทบต่อสถานะของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
และเสรีภาพของสื่อมวลชนอย่างมาก
ทั้งนี้
ในการเสวนาได้มีการอภิปรายกันถึงความสำคัญของสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน
ซึ่งมีแนวโน้มถดถอยลง จากการถูกปิดกั้น แทรกแซง รวมถึงการดำเนินคดีต่อการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
โดยอาศัยกฎหมายพิเศษเช่นกฎหมายอาญามาตรา 112 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
โดยในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.56) การเสวนาจะมีต่ออีก 1 วัน ในหัวข้อว่าด้วยกฎหมายและกรอบทางสังคม กับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ซึ่งจะมีวิทยากรสำคัญๆ เข้าร่วม ได้แก่
- นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักเขียนอิสระ
- ดร.เดวิด เสร็กฟัส
ผู้อำนวยการศูนย์แลกเปลี่ยนการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- นายจอน อึ๊งภากรณ์
หัวหน้าคณะทำงานศึกษากฎหมายอาญามาตรา 112
- นางสาวจิรานุช เปรมชัยพร
ผู้อำนวยการเวปไซต์ประชาไท
- ศาสตราจารย์ ธงทอง จันทรางศุ
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
http://news.voicetv.co.th/thailand/61841.html
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น